อย่างที่บอกนะครับ ญี่ปุ่นลงทุนลงแรงกับการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้มาก พวกเขาลงทุนไปมากกว่า 400,000 ล้านบาท กับการจัดการทุกอย่างให้พร้อมที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่โคตรเวอร์ กับการจัด Event ซัก Event หนึ่ง ประมาณแค่ 2 อาทิตย์
แต่ทว่าญี่ปุ่นคำนวณแล้วพวกเขาว่าคุ้มค่า เพราะว่าสปอนเซอร์ต่างๆที่กำลังไหลเข้ามา เมื่อเห็นความพร้อมของพวกเขา และที่สำคัญนะครับ ที่เป็นการรันเศรษฐกิจในประเทศให้คึกคักอีกครั้ง เพราะว่าเมื่อคุณจัดโอลิมปิก ก็จะมีผู้คนหลั่งไหลจากทั่วทุกมุมโลก แห่เข้ามาที่ประเทศของพวกเขาในเวลานั้น
ทำให้ญี่ปุ่นมองแล้วก็คำนวณว่า อย่างไรก็คุ้มค่ากับที่ลงทุนไปแน่ แต่แค่อยากจะบอกนะครับว่า covid เปลี่ยนทุกอย่าง เงินจากสปอนเซอร์ก็ไม่ได้มาอย่างที่คาดว่าเอาไว้
เงินจากนักท่องเที่ยวจากแฟนกีฬามันก็ไม่ได้ เพราะว่าเรื่องของ covid ทำให้การเดินทางทั่วประเทศเข้าประเทศเป็นสิ่งลำบาก บวกกับการจัดการปัญหาเรื่องไวรัสที่ญี่ปุ่นก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ ทำให้พวกเขาไม่สามารถเปิดรับคนต่างชาติเข้าประเทศไปชมได้ ญี่ปุ่นที่ลงทุนไปแล้วทำได้ตอนแรกคือการยื้อเวลาออกไป
เพราะในปี 2020 โควิดระบาดหนัก ไม่สามารถทำอะไรได้จริงๆ ก็เลื่อนไปอีก 1 ปี ซึ่งถือว่าเสียหายมาก ก็อย่างที่รู้กันนะครับ ว่าเลข 2020 มันเป็นเลขสวย มันสามารถทำการตลาดต่างๆได้อีกมากมาย
พอต้องมาเป็นปี 2021 นะครับ มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งทันที จากที่จะมีคนต่างชาติเข้ามาประเทศ มีเงินการจองที่พัก การซื้อตั๋วเข้าชม ที่ยังไงก็คลายเครียดมูลค่าต่างๆกลับเป็น 0 ทั้งหมด เงินที่คิดว่าจะได้หลายพันล้านสะพัดในประเทศกลายเป็นสงบนิ่ง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทันที
ที่ประเทศญี่ปุ่น ทุกฝ่ายโดยเฉพาะรัฐบาล ลงแรงกับโอลิมปิกครั้งนี้ว่า จะนำความเจริญมาสู่ประเทศ กลับกลายเป็นว่าโอลิมปิกได้สร้างปัญหาโคตรใหญ่ให้กับพวกเขา จากที่ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรมีผลประกอบการให้มากที่สุด จัดทำการแข่งขันให้ดีที่สุด ให้เป็นที่จดจำได้ ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าญี่ปุ่นต้องมานั่งคิดแล้วว่า จะทำอย่างไรให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด สิ่งที่ญี่ปุ่นอยากจะทำมากๆแต่ว่าตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว ก็คือการเลื่อนการจัดการแข่งขันออกไป แต่ว่าหลังจากเลื่อนมาปีนึง
ก็พบว่ามันทำไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะว่าตอนนี้แผนงานทุกอย่างมันแน่นหมด ปีหน้าที่เอเชียมีการแข่งขันฟุตบอลโลกที่กาตาร์ ส่วนโอลิมปิกปี 2024 ฝรั่งเศสก็รอคิวอยู่ เวลามันไม่พออีกต่อไปแล้วหรือต่อจะให้เลื่อนไปจัดหลังฝรั่งเศส มันจะเป็นช่วงเวลาที่นานเกินไป
การขาดทุนความเสียหายแทบไม่ต่างอะไรจากการยกเลิก ส่วนวิธีที่เจ็บแต่จบ นั่นคือการยกเลิกการแข่งขันไป ซึ่งอันนี้คงไม่ใช่ทางเลือกไม่มีใครรับความเสียหายจากการที่ไม่สามารถแข่งขันได้ มันร้ายแรงเกินกว่ามนุษย์คนใดจะนึกถึงแน่ ไหนจะเสี่ยงโดนฟ้องจากสปอนเซอร์
รวมไปถึงการคืนเงินหรือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดต่างๆ เพราะว่าในเมื่อคุณไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ สปอนเซอร์ทำไมต้องควักเงินมาจ่าย เพราะแบรนด์ของเขาไม่ได้ขายตามที่ตกลงเอาไว้
ซึ่งประเมินความเสียหายตรงนี้ อยู่ที่ประมาณ 500,000 ล้านบาทเลยทีเดียวครับ ซึ่งมาตรการล่าสุดตอนนี้นะครับ นั่นคือโอลิมปิกสามารถแข่งได้ตามปกติ แต่ว่ามีแค่คนในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นที่ดูเกม
แถมยังต้องดูแบบจำกัดจำนวนคนเข้าดู ส่วนคนประเทศอื่นก็ต้องดูทางออนไลน์เท่านั้น คงจะต้องบิดมาทางนี้ล่ะครับ เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด แต่มันก็ต้องทำนะครับ มันขึ้นหลังเสือแล้วจะต้องลง แต่จะลงอย่างไรให้ไม่โดนเสือขย้ำตาย หรือมีรอยแผลฉกรรจ์แต่ไม่ถึงกับชีวิตก็พอ
สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มันคือความน่าสงสาร นี่คือความโชคร้ายของประเทศญี่ปุ่นอย่างแท้จริง จากเมื่อ 7 ปีก่อน วันที่พวกเขาได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิก แต่วันนี้กลับกลายเป็นว่าพวกเขาจะทำอย่างไรกันดี เพื่อให้ประเทศของตัวเองเจ็บตัวน้อยที่สุด
โอลิมปิกครั้งนี้ ที่กำลังจะกลายเป็นโอลิมปิกที่สร้างความเสียหายย่อยยับ ทั้งทางเศรษฐกิจและการย่อยยับที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งที่เตรียมการทุกอย่างมาอย่างดี แต่ก็ดันเจอเรื่องเหนือความคาดหมาย ที่สุดแสนจะโหดร้าย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราขอเป็นกำลังใจให้กับประเทศญี่ปุ่น ผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายนี้ไปให้ได้นะครับ