ผู้ทรงอิทธิพลในวงการฟุตบอล EP:1

ข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล

ถ้าเราจะพูดถึงตำนานในระดับผู้ทรงอิทธิพล ของวงการฟุตบอลขึ้นมาคนนึง คงไม่พ้นผู้จัดการทีมที่ชื่อ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่คุมทีมมาอย่างยาวนาน 26 ปี เฟอร์กูสัน ต้องผ่านอะไรมากมายครับ แน่นอนครับผมกำลังพูดถึง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เกี่ยวกับความยอดเยี่ยม การตัดสินใจ ความสำเร็จต่างๆ ถือว่าคงไม่มีเครื่องหมายคำถามอะไร 

สิ่งที่น่าสนใจคือ วิธีการบริหารที่เขาพาปีศาจแดง ก้าวขึ้นมาสู่ยอดทีมได้สำเร็จ ซึ่งเรื่องราวระหว่างทางนั้นล่ะครับ ที่มันน่าสนใจ การวางตัวในแต่ละครั้ง การวางกฎที่เข้มงวด แล้วก็การทำให้นักเตะมีระเบียบวินัย แต่ด้วยความที่เป็นนายใหญ่ ในบางครั้งเขาก็ต้องยอมทำการตัดสินใจ ที่มันอาจจะทำให้ตัวเองนั้นเจ็บช้ำน้ำใจพอสมควรครับ ที่สำคัญเขาต้องรับมือกับมันให้ได้ด้วยครับ 

เริ่มที่ความเข้าใจก่อนแล้วกันครับ คำว่าผู้จัดการทีมกับเฮดโค้ช ยังสับสนอยู่แต่จริงๆแล้วอ่ะครับ ถ้าเป็นยุคสมัยก่อนกับอดีตที่ผ่านมาครับ ในยุค 70 80 90 ประมาณนี้นะครับ  ผู้จัดการทีมคือคนคนเดียวกับที่ทำหน้าที่เป็นเฮดโค้ช นอกจากจะดูแลในเรื่องของการฝึกซ้อม เรื่องลูกทีมและเรื่องในสนามต่างๆ เรื่องผลงานในสนาม แต่ยังต้องมีงานจัดการทำเรื่องนอกสนามด้วยครับ เช่นในเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆการต่อสัญญา การเจรจานักเตะ การประชุมกับทางบริหาร การยื่นเรื่องร้องขอ หรือต่างๆ ดูแลเรียกว่าเป็นทุกเรื่อง นั่นคือหน้าที่ของผู้จัดการทีม 

พอมายุคสมัยใหม่เข้ามานะครับ หลายๆทีมก็เริ่มมีตำแหน่งที่เข้ามาคั่น บางสโมสรเรียกว่าเป็นผู้อำนวยการหรืออะไรก็ตาม แต่คนที่เป็นเฮดโค้ช ก็รับหน้าที่ในเรื่องของผลงานในสนามอย่างเดียว ซึ่งในรูปแบบตรงนี้นะครับ เรื่องอื่นๆเขาทำกันมานานพอสมควรแล้วครับ อย่างเช่นบุนเดสลีกาเนี่ย อันนี้แบ่งหน้าที่ชัดเจนกับผู้จัดการ แบ่งชัดเจน 

แต่ว่าของอังกฤษเนี่ย มันเป็นที่แปลกใหม่ครับ มันก็มีบางคนครับที่เคยทำหน้าที่ เป็นทั้งผู้จัดการทีมและเคยทำหน้าที่เป็นเฮดโค้ช ทั้งตัวอย่างง่ายๆก็คือปกตินะครับ เจอทั้ง 2 รูปแบบ สมัยที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมทำทุกอย่างดูแลทุกอย่างทุกขั้นตอน รายละเอียดปลีกย่อย เอกสาร การเจรจา กับการนักเตะและผู้บริหาร ประชุมกับผู้บริหาร เป็นตัวเชื่อมทุกอย่างทั้งหมดเลย แต่พอมาถึงผู้จัดการทีมในปัจจุบันเท่านั้น ที่เป็นคนเดียวคุมทีม ผลงานการซ้อม ทำผลลัพธ์ให้มันดีที่สุด ที่เหลือเนี่ย มีคนจัดการให้หมด 

เห็นภาพชัดๆหน่อยครับซึ่ง ย้อนกลับไปในตำแหน่งของการเป็นผู้จัดการทีม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะเห็นเลยว่ามันเป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่มากๆ ใครจะเข้ามารับตำแหน่งนี้ได้เนี่ย ไม่ใช่แค่คุมทีมเก่ง หรือผลลัพธ์ที่ดีเท่านั้น จะต้องมีบารมีต้องมีอิทธิพลต่อผู้บริหาร สามารถต่อรองได้ ดิวการเจรจา ทำหน้าที่หลากหลาย ตั้งแต่ต้นน้ำ ยันปลายน้ำ 

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นี้แหละชัดเจน ยอดคน เลือกคนนี้ครับ เข้ามาคุมทีมแม้ตั้งแต่ปี 1986 จนถึงปี 2013 ครับ แน่นอนครับว่าระยะเวลายาวนานขนาดนั้น เขาทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก้าวขึ้นมาเป็นยอดทีมได้เลยครับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีทั้งพระเดช พระคุณ โดยในแง่ของการสร้างทีม เขาก็จะมีคนกลางอีกคนนึงครับ ที่คอยช่วยเหลือ  ในยุคก่อนหรือก่อนที่เขาจะอำลาทีมไป ก็คือ ปีเตอร์ แคนย่อน

 ซึ่งในแต่ละปีสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของผู้เล่นเยอะแยะมากมายครับ การผ่าตัดทีมนักเตะที่ไม่ใช้ออกไป แล้วก็ดึงนักเตะรายใหม่เข้ามา เพื่อจะสร้างให้มันดีขึ้น หรือในแง่ของการบริหารจัดการ และเขาก็เป็นคนต่อรองกับบอร์ดบริหารครับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เปลี่ยนแปลงระบบนักเตะเยาวชนใหม่หมดเลยครับ สร้างระบบ Academy ที่มันแข็งแรงมากขึ้น สร้างทีมแมวมองที่มันมากขึ้น จนสามารถค้นหาดาวรุ่ง ฝีเท้าดีจากทั่วประเทศครับ  

แล้วก็มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปกับคำตอบ ที่ถูกนั้นเห็นชัดๆเลยครับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีการวางแผนทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวครับ ระยะสั้นก็คือการทำทีมในแต่ละฤดูกาลให้ได้ตามผลลัพธ์ ตามเป้าหมาย ที่วางไว้ ระยะกลางก็คือการเปลี่ยนแปลงแล้วก็ถ่ายเลือดเพื่อความสำเร็จครับ ส่วนระยะยาวก็คือเป้าหมายสูงสุดที่ตั้งเอาไว้ครับ นับจากวันที่เขาเข้ามารับงานทั้ง 3 แผนการทั้ง 3 ระยะนี้นะครับ คือหน้าที่ซึ่งผู้จัดการทีมอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั้นต้องแสดงผลงาน ทั้งการวางแผน การบริหาร ให้ไปถึงเป้าหมายโดยเร็วที่สุด